ในช่วงนี้หลายกิจการภายในประเทศไทยเริ่มซึมซับถึงความจำเป็นที่ต้องบริหาร และควบคุมกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นนำจวบจนปลายน้ำเชื่อมโยงกันตลอดโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain กันมากยิ่งขึ้น มีการให้ความสำคัญและความร่วมมือกันทั้งผู้ขาย ผู้ผลิต ผู้ส่งมอบ และลูกค้า โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การสร้างประสิทธิภาพและความสมดุลร่วมกัน (Optimization) ตลอดโซ่อุปทาน
"แน่นอนครับ พิมพ์เขียวตัวแบบสำคัญที่ใช้ในการพัฒนาการจัดการทั้งโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่สากลนิยมนำมาประยุกต์ใช้ และผมคิดว่ากิจการของไทยจำเป็นต้องเรียนรู้ ก็คือ ตัวแบบ SCOR Model (อยากรู้จัก SCOR มากขึ้คลิกอ่านได้ที่นี้ "บทความตัวแบบ SCOR" ) ซึ่งตัวแบบ SCOR Model จะให้ความสำคัญกับกระบวนสร้างความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบทั้ง 6 กระบวนหลักภายในโซ่อุปทาน คือ Plan Source Make Deliver Return และ Enable โดยมีเป้าหมายให้เกิดประสิทธิผล 5 ด้าน คือ Reliability, Responsiveness, Agility, Cost และ Asset Management Efficiency ดังภาพ
ภาพที่ 1 เป้าหมาย 5 ด้าน กระบวนการ 6 อย่าง ในการจัดการโซ่อุปทาน |
ส่วนแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการจัดการโซ่อุปทานอย่างไรให้เหมาะสมกับกิจการนั้น ผมสรุปจากแนวทางในการเข้าให้คำปรึกษาเรื่อง Supply Chain ที่ผ่านมาและถอดบทเรียนจากการปฏิบัติจริงเป็นกรอบแนวคิดและวิธีการโดยการประยุกต์ใช้วิธีคิดตามแบบ SCOR Model มาเป็นแนวทางไว้ดังภาพที่ 2
ภาพที่ 2 กระบวนการพัฒนาโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น |
โดยสามารถแบ่งขั้นตอนออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ คือ
1. การวิเคราะห์และจัดทำกลยุทธ์ คือ การดำเนินการวิเคราะห์และกำหนดว่ากลยุทธ์ใดสำคัญ โดยจะพิจารณาจากเป้าหมาย 5 ด้านหลัก โดยกลยุทธ์ 3 ด้านแรก มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อลูกค้า คือ Reliability, Responsiveness และ Agility ส่วนกลยุทธ์ที่ 4 และ 5 เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพการดำเนินการขององค์กร
2. การคัดเลือกผลิตภัณฑ์และศึกษาทำความเข้าใจโครงสร้างโซ่อุปทาน คือ การศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อเชื่อมโยงให้เห็นถึงกระบวนการ ผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับโซ่อุปทานของสินค้า ที่ได้รับการคัดเลือกมาพัฒนาโซ่อุปทาน โดยจะมีกิจกรรมสำคัญๆ 4 อย่างคือ 1) การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ 2) การจัดทำโครงสร้าง Chain 3) การจัดทำแผนภาพทางภูมิศาสตร์ 4) การจัดทำรูปแบบความเชื่อมโยงของแต่ละกระบวนการภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่ได้คัดเสือก
3. การวิเคราะห์และประเมินผลกระบวนการ/ขั้นตอนการทำงาน คือ การประยุกต์แนวคิดตัวแบบ SCOR ผ่านกลไกการบริหารจัดการ 4P (Performance Process Practice People) โดยการวิเคราะห์ประสิทธิผลจะนำเป้าหมาย 5 ด้าน (Reliability, Responsiveness, Agility, Cost และ Asset Management Efficiency) และกระบวนการ 6 อย่าง (Plan Source Make Deliver Return และ Enable) มาทำการวิเคราะห์ปัญหาและโอกาสพัฒนาปรับปรุงภายใต้โซ่อุปทานของ Product นั้นๆ
4. การดำเนินการพัฒนาปรับปรุง คือ การนำประเด็นการพัฒนาปรับปรุงที่ได้วิเคราะห์ มากำหนดมาตรการ โดยใช้หลักการปฏิบัติ (Practice) มาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร (People) เพื่อให้มีศักยภาพในการใช้หลักปฏิบัติ และพัฒนาวิธีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรูปแบบของการปรับปรุงสามารถดำเนินการได้ 4 ลักษณะ คือ
- การปรับปรุงเฉพาะตัวองค์กร (Company)
- การปรับปรุงร่วมกันกับผู้ส่งมอบ (Supplier)
- การปรับปรุงร่วมกันกับลูกค้า (Customer)
- การปรับปรุงร่วมกันกันทั้งโซ่อุปทาน (Supply Chain)
เมื่อลงทะเบียนใช้งานแล้ว
อยากค้นหาคู่ค้าเพื่อทำธุรกิจ..ทำได้
อยากรู้จักลูกค้ามากขึ้น..รู้
อยากรู้จัก Supplier มากขึ้น..รู้
อยากเข้าใจในความเชื่อมโยง..รู้
อยากรู้แหล่งที่ตั้ง...รู้
อยากสร้างตัววัดคุมการทำงานทั้ง chain..ทำได้
เกิดเหตุผิดปกติในพิ้นที่ลูกค้า- Supplier..รู้
และอีกหลาย Feature ที่กำลังจะตามมา
หรือจะรับชมผ่านทาง YouTube ถึงคุณลักษณะของ Application ตัวนี้ก่อนก็ได้ ที่
อยากค้นหาคู่ค้าเพื่อทำธุรกิจ..ทำได้
อยากรู้จักลูกค้ามากขึ้น..รู้
อยากรู้จัก Supplier มากขึ้น..รู้
อยากเข้าใจในความเชื่อมโยง..รู้
อยากรู้แหล่งที่ตั้ง...รู้
อยากสร้างตัววัดคุมการทำงานทั้ง chain..ทำได้
เกิดเหตุผิดปกติในพิ้นที่ลูกค้า- Supplier..รู้
และอีกหลาย Feature ที่กำลังจะตามมา
หรือจะรับชมผ่านทาง YouTube ถึงคุณลักษณะของ Application ตัวนี้ก่อนก็ได้ ที่
ลองไปทดลองใช้ดูกันนะครับ ชอบ/ไม่ชอบก็ Comment กันได้ ส่วนใครสนใจในแนวทางของการพัฒนาโซ่อุปทาน อยากพัฒนาการจัดการตลอดโซ่อุปทานให้เป็นเลิศ ก็สามารถสอบถาม แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ ด้วยความยินดีครับ
มงคล พัชรดำรงกุล
วิทยากร/ที่ปรึกษา/ผู้เชี่ยวชาญการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน และการเพิ่ม Productivity องค์กร
LineID : naitakeab, Tel 081-8476479
25 กันยายน 2561