วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

หยุดใช้กระดาษและ Spreadsheet แล้วมาใช้ Web App ที่พัฒนาเองบันทึกข้อมูล (ทำเองได้ ใช้ฟรี ยาวๆ!)

Web App จัดการข้อมูลการทำงาน ด้วย HTML/JS + Firebase (ประหยัดและใช้ฟรีได้ยาวๆ!)

ในฐานะที่ปรึกษาในอุตสาหกรรม ผมพบว่าความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME หรือแม้กระทั่งรายใหญ่ๆ ก็คือ การจัดการข้อมูล ซึ่งมักติดอยู่กับระบบแบบฟอร์มที่ต้องบันทึกมากมาย โดยส่วนใหญ่ที่เห็นก็ต้องบันทึกลงกระดาษและนำไปป้อนอีกครั้งลง Excel แล้วก็นำไปทำรายงานสำหรับการประชุมหรือนำเสนอผู้บริหาร ซึ่ง Pain Point ที่พบ คือ ขาดความรวดเร็ว, เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย และไม่สามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ได้ อยากแก้ไข ก็ต้องเริ่มทำใหม่ตั้งแต่แรก

แต่วันนี้มีมีทางออกให้: ก็คือการสร้าง Web Application แบบ Client-Side Only ที่ใช้ HTML/CSS/JavaScript ผสานกับ Firebase Realtime Database ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้คุณได้ระบบที่รวดเร็ว, ใช้งานง่าย, และ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย Server/Backend ยิ่งเดี๋ยวนี้มี AI ช่วย ติดปัญหาปุ๊บ มีผู้ช่วยคิดช่วยทำทันที ไม่อู้ ไม่บ่น ไม่น้อยใจ (เอ๊ะ!แต่บางทีก็อาจมีบ้าง 555)


สถาปัตยกรรม (Architecture) และการจัดโครงสร้างข้อมูล 

  • เทคโนโลยีที่ผมเลือกใช้:

    • Frontend: HTML, CSS, JavaScript (ใช้ Font Sarabun เพื่อรองรับภาษาไทย)

    • Backend: Firebase Realtime Database (RTDB) - ใช้ฟรีด้วย เก็บข้อมูลได้ 1 GB

    • Hosting และ Deployment: ระบบนี้ถูกออกแบบให้ติดตั้งง่ายและฟรี โดยใช้ GitHub สำหรับเก็บโค้ด และ Netlify ในการ Deploy ไฟล์ HTML/JS เหล่านี้ ซึ่งเป็น Workflow ที่รวดเร็วและเป็นอัตโนมัติ

  • หัวใจสำคัญ : การจัด Node ข้อมูล (ถ้าใน Excel ก็คือ Sheet)อย่างมีระเบียบ (Schema-less ≠ Brain-less):

    • Transaction Data (ข้อมูลหลัก): แยกเป็น ReceiptsRM (สำหรับการรับวัตถุดิบ) และ ReceiptsFG (สำหรับการรับสินค้าที่ผลิตเสร็จ) – โดยข้อมูลที่บันทึกจะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

    • Master Data (ข้อมูลอ้างอิง): แยกเป็น DB_RMDB_TruckDB_EmployeeDB_Product,   DB_Locationเป็นข้อมูลคงที่ จำลองให้เป็นฐานข้อมูล นามสกุล .csv แล้ว upload เข้า Firebase เพื่อนำมาใช้สำหรับทำเป็น Dropdown

  • Code Snippet: ใช้ firebaseConfig ของแต่ละ Project เพื่อเชื่อมต่อโดยตรง และสร้าง Key ID อัตโนมัติด้วยคำสั่ง .push(data) บอกตามตรง ส่วนนี้ AI ช่วยผมทำให้ 555


ฟังก์ชันหลัก (Core Features) และ Best Practices ในโค้ด

  • การบันทึกข้อมูล (Create):

    • ใช้ JavaScript ดึง Master Data มาเติมใน <select> (Dropdowns) ในหน้าบันทึก เพื่อลดความผิดพลาดในการบันทึกและรักษาความสะอาดของข้อมูล  - AI ก็ช่วยผมอีกงานนี้ เหตุผลก็คือ ผมอยากให้ User ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพิมพ์เยอะ และไม่อยากให้ผิดพลาด (อันนี้คิดเอง ออกแบบเอง ฮิฮิ)

  • การตรวจทานและควบคุมข้อมูล (Read & Update)

    • Filter ข้อมูลตามช่วงวันที่: สร้างระบบให้มี การ Filter ข้อมูลตามช่วงวันที่ ด้วย JavaScript ในฝั่ง Client ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมปริมาณข้อมูลที่แสดงผลและลดภาระการโหลด
    • เครื่องมือควบคุม: มีปุ่ม ✏️ แก้ไข และ 💾 บันทึก เพื่ออัปเดตเฉพาะรายการนั้นๆ และมีปุ่ม 🗑️ ลบ สำหรับลบรายการที่บันทึกผิดพลาดทันที 

  • การ Export ข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ (Export):

    • เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลเก่าไปวิเคราะห์ต่อ ผมจึงเลือกใช้ไลบรารี Papa Parse หรือโค้ด JavaScript ในการแปลงข้อมูลตาราง (HTML Table) ให้เป็นไฟล์ CSV ที่พร้อมใช้งานทันที (จริงๆ แล้ว AI บอกและอธิบายผม ผมเลยสั่งให้มันทำให้ผมด้วยเลย 555)

  • หน้าเพจ หรือแบบฟอร์มที่พัฒนาวันนี้ 

    1. FG_form.html: หน้าจอสำหรับ บันทึกข้อมูลผลผลิต (Finished Goods - FG)

    2. review_receipts.html: หน้าจอสำหรับ ตรวจทาน/แก้ไข/ลบ ข้อมูลการรับวัตถุดิบ (Node ReceiptsRM) และใช้ Download CSV file สำหรับเก็บข้อมูลเก่า

    3. review_FGdata.html: หน้าจอสำหรับ ตรวจทาน/แก้ไข/ลบ ข้อมูลผลผลิตสำเร็จรูป (Node ReceiptsFG) และใช้ Download CSV file สำหรับเก็บข้อมูลเก่า

    4. admin_upload.html: เครื่องมือสำหรับ Admin ใช้ในการ อัปโหลด (Import) Master Data จากไฟล์ CSV เข้าสู่ Firebase ในครั้งแรก หรือ update ให้เป็นปัจจุบันแบบง่ายๆ

    5. index.html: หน้าจอหลักสำหรับ บันทึกข้อมูลการรับวัตถุดิบ (Raw Material - RM)


กลยุทธ์การใช้งานฟรีอย่างยั่งยืน (The Free Tier Strategy)

ตั้งใจอ่านกันดีๆ ส่วนนี้เป็นหัวข้อสำคัญ ที่จะทำให้ใช้ฟรีได้ยาวๆ!

  • ขีดจำกัดของ Firebase Spark Plan (ที่ผมเลือกใช้แบบฟรี โดยต้องมีบัญชี Gmail นะ เพราะเป็น Product ของ Google เขาล่ะ) แต่สามารถใช้งานได้หลายอย่าง เช่น 

    • Realtime DB Storage (1 GB): ซึ่งผมเลือกใช้มันในครั้งนี้ โดยเพียงพอสำหรับ 2 ล้าน Records แต่วันหนึ่งก็อาจไม่พอ เลยต้องหาทางแก้ไว้ เพื่อให้ใช้ฟรียาวๆ

    • Network Egress (10 GB/เดือน): เน้นย้ำว่านี่คือขีดจำกัดที่อาจเจอก่อน โดยเฉพาะเมื่อเปิดหน้า Review ที่โหลดข้อมูลเยอะ - อันนี้ AI ช่วยทำให้อีกแล้ว น่าจะรอดตัวไป ฮิฮิ

  • กลยุทธ์ "Export & Archive":

    • ใช้วิธี ดาวน์โหลด (Export) ข้อมูลที่ผ่านมา หรือครึ่งปี แล้วแต่จะมีข้อมูลมากน้อย เป็นไฟล์ CSV และเก็บไว้ใน Local/Drive (แต่ถ้าทั้งปีไม่ถึง 2 ล้าน Records  ก็ทำปีละครั้งได้)

    • ลบข้อมูลเก่า ออกจาก Node ใน Realtime Database ผ่าน Firebase Console โดยตรง (Mass Deletion) เพื่อเคลียร์พื้นที่ 1 GB ให้กลับมาใช้งานได้ใหม่อยู่ตลอดเวลา


ผลที่ได้หลังจากการทำ

ระบบ Web App ที่พัฒนาขึ้นครั้งนี้ได้ใช้งานจริง และส่งมอบให้กับลูกค้า SME ที่ให้คำปรึกษาอยู่ในปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อย นี้เป็นการผสานความรู้ด้าน IT (Client-Side Development) เข้ากับ ความเข้าใจในอุตสาหกรรม ความเข้าใจในงานอย่างแท้จริง บนแนวคิดที่ว่า User is Developer โดยผมจำลองตัวเองในฐานะที่ปรึกษาอุตสาหกรรมเป็นผู้ใช้ และทำหน้าที่พัฒนาให้ดีและง่ายมีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งาน

แล้วจะรู้ว่า "การทำงานแบบดิจิตอล ไม่ได้ยากเลย" ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ งงตรงไหน ก็มี AI เป็น IT  Helpdesk ให้ผม 

หากคุณต้องการนำระบบนี้ไปใช้จริงในโรงงานของคุณ, ต้องการ ปรับแต่ง (Customize) โครงสร้างข้อมูลให้เข้ากับ Workflow ของคุณ, หรือต้องการทำ Data Migration จาก Excel เข้าสู่ Firebase อย่างถูกต้อง สามารถเริ่มตนทำเงอได้เลย หรือปรึกษาเราได้

หากคุณมีคำถามหรือต้องการแลกเปลี่ยนการพัฒนา Web App สำหรับใช้ในการทำงาน สามารถแสดงความคิดเห็นไว้ด้านล่างได้เลยครับ

หากคุณต้องการความช่วยเหลือเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาองค์กรของคุณในเรื่องนี้ เราก็พร้อมเป็นที่ปรึกษาและผู้จัดฝึกอบรมให้กับคุณ 

สามารถติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้:

  • โทร: 081-8476479

  • LINE ID: naitakeab

  • Email: rightway.mgt@gmail.com

หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หยุดใช้กระดาษและ Spreadsheet แล้วมาใช้ Web App ที่พัฒนาเองบันทึกข้อมูล (ทำเองได้ ใช้ฟรี ยาวๆ!)

Web App จัดการข้อมูลการทำงาน ด้วย HTML/JS + Firebase (ประหยัดและใช้ฟรีได้ยาวๆ!) ในฐานะที่ปรึกษาในอุตสาหกรรม ผมพบว่าความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอย...