วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ผ่ากลยุทธ์ 4 แกน : ยกเครื่อง "สินค้าคงคลัง" สู่ความเป็นเลิศ (ลดต้นทุน เพิ่มกำไรอย่างยั่งยืน)

มาช่วยกันพลิก Inventory จาก "ปัญหา" สู่ "ขุมพลัง" 💡

ในฐานะผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการซัพพลายเชน เราทราบดีว่า สินค้าคงคลัง (Inventory) คือ สินทรัพย์หมุนเวียน ที่ถูกจัดเก็บไว้เพื่อตอบลูกค้า แต่มีมากเกินไปก็เงินจม-น้อยเกินไปก็เสี่ยงตอบสนองไม่พอ  การควบคุมและบริหารจัดการที่ผิดพลาดส่งผลต่อกำไรทันที

บทความนี้จึงขอถ่ายทอด 4 แกนหลักเชิงกลยุทธ์ ที่จะทำให้คุณควบคุมสินค้าคงคลังได้อย่างมืออาชีพ "ในทุกๆจุด ทุกประเภทสินค้าคงคลัง " ตามหลักการบริหารจัดการประสิทธิภาพสูงสุด


1. แกนหลักที่ 1: การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์และการจัดกลุ่ม (Strategic Analysis & Inventory Classification)

ประสิทธิภาพเริ่มต้นที่ความเข้าใจใน "ประเภท" และ "มูลค่า" ของสิ่งที่เราถือครองอยู่ ไม่ใช่การจัดการแบบเหมาเข่ง

1.1 ต้องวิเคราะห์หลายมิติ: เครื่องมือที่เหนือกว่า ABC Classification

การพึ่งพาแค่ ABC Analysis (จัดกลุ่มตามมูลค่าการใช้) นั้นไม่เพียงพอต่อการควบคุมความเสี่ยงอย่างรอบด้าน เราต้องใช้การวิเคราะห์หลายมิติ อาทิเช่น:

  • VED Analysis (Vital, Essential, Desirable): ใช้วัด ความสำคัญ เพื่อเป็นเกณฑ์หลักในการกำหนดระดับ Safety Stock (SS)

  • HML Analysis (High, Medium, Low): วิเคราะห์ตาม ราคาต่อหน่วย เพื่อให้ฝ่ายจัดซื้อสามารถควบคุม ต้นทุนจัดซื้อ และกำหนดอำนาจการอนุมัติ

  • SDE Analysis (Scarce, Difficult, Easy): วิเคราะห์ตาม ความยากง่ายในการจัดหา เพื่อวางแผนการสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับสินค้าที่มี Lead Time (LT) ยาวนาน

1.2 โครงการเริ่มต้นที่สร้างผลกระทบสูงสุด (Quick Win Project)

  • ดำเนินการตรวจสอบและ โครงการลด Stock ที่ไม่ใช้งาน (Non-Moving Stock) ทันที เพื่อปลดล็อกเงินทุนที่จมอยู่ให้กลับมาหมุนเวียน


2. แกนหลักที่ 2: การควบคุมพื้นที่ปฏิบัติการและ WIP (WIP & Operation Control)

ความสูญเปล่าที่ซ่อนอยู่มักเกิดในพื้นที่ปฏิบัติการและสินค้าที่อยู่ระหว่างผลิต (Work In Process)

2.1 กำจัดความสูญเปล่าใน WIP

  • ลด Loss/Damage: โฟกัสที่ โครงการลด WIP และต้นทุน โดยเฉพาะการลดความสูญเสียจากการรอคอย (Waiting) และการขนถ่าย (Handling) ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่ไม่มีใครอยากจ่าย

  • ใช้ระบบ Pull (KANBAN): เปลี่ยนแนวคิดจากการผลักสินค้าเข้าสู่กระบวนการถัดไป เป็นการใช้ ระบบดึง เพื่อ กำหนดและควบคุมระดับ Stock Level ให้แต่ละขั้นตอนผลิตเฉพาะเมื่อมีความต้องการจริง ๆ เท่านั้น

2.2 ปรับปรุงสภาพแวดล้อมคลังสินค้า

  • Layout Optimization: ดำเนินการ โครงการปรับ Lay-out เพื่อให้การไหลของวัสดุ (Material Flow) เป็นไปอย่างราบรื่น ลดระยะทางการเคลื่อนย้ายและเวลาในการค้นหา (Picking Time)


3. แกนหลักที่ 3: การสั่งซื้อที่แม่นยำและเป็นระบบ (Precision Procurement Strategy)

การจัดซื้อคือจุดที่เงินทุนไหลออกจากบริษัท การควบคุมจุดนี้อย่างเข้มงวดจึงสำคัญที่สุด

3.1 การพยากรณ์ คือ รากฐานความสำเร็จ

  • Forecasting Accuracy: พัฒนาตัวแบบที่เหมาะสมสำหรับ การเพิ่มความแม่นยำของการประมาณความต้องการ ข้อมูลที่แม่นยำจะนำไปสู่การคำนวณ ROP (จุดสั่งซื้อ) และ Q (ปริมาณการสั่งซื้อ) ที่ถูกต้อง

3.2 จัดการตัวแปรสำคัญในการสั่งซื้อ

เราต้องควบคุมปัจจัยสำคัญทั้งหมดในการสั่งซื้อ:

  • ลด Lead Time (LT): ดำเนินการ โครงการลดระยะเวลาในการจัดซื้อ/จัดหา/ตรวจสอบ เพราะ LT ที่สั้นลงหมายถึงความจำเป็นในการเก็บ Safety Stock ที่ลดลง

  • กำหนดปริมาณสั่งซื้อ (Q): ใช้หลักการ EOQ (Economic Order Quantity) เพื่อหาปริมาณที่สมดุลระหว่างต้นทุนการสั่งซื้อและต้นทุนการเก็บรักษา หรือพัฒนาตัวแบบการกำหนดการสั่งซื้อที่เหมาะสม ที่ไม่ได้พิจารณาแค่ต้นทุนสั่งซื้อและต้นทุนการเก็บ และถูกจริตกับองค์กรของคน

  • บริหารความเสี่ยงซัพพลายเออร์: กำหนดให้มีการวัดผลและพัฒนาด้วย โครงการเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย S-DIFOT (Supplier Delivery In Full On Time)


4. แกนหลักที่ 4: การติดตามผลและการขับเคลื่อนด้วย KPI (Tracking & KPI Governance)

กลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมต้องได้รับการวัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

4.1 พัฒนาระบบรับ-จ่าย

  • บูรณาการระบบ: พิจารณาการพัฒนาระบบรับ-จ่ายที่ทันสมัย เช่น JIT, Cross Dock, VMI (Vendor Managed Inventory) หรือ Consignment เพื่อลดภาระการถือครองสินค้าในคลังขององค์กรให้น้อยที่สุด

4.2 ตัวชี้วัดที่ต้องติดตาม

กำหนด ตัวชี้วัดผลงานหลัก (Key KPIs) ที่สะท้อนประสิทธิภาพของระบบ Inventory Management:

  • อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover): วัดความเร็วในการขายสินค้า

  • ความแม่นยำของการนับสต็อก (Stock Accuracy): วัดความน่าเชื่อถือของข้อมูลในระบบ

  • อัตราสินค้าขาดสต็อก (Stock Out Rate): วัดความเสี่ยงและโอกาสที่เสียไปในการขาย

การควบคุม Inventory คือการควบคุมอนาคต

การควบคุมสินค้าคงคลังใน 4 แกนหลัก นี้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ขององค์กรคุณให้เป็นผู้นำด้านการจัดการต้นทุนและความยืดหยุ่น นี่คือ ความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้

🎯 พร้อมที่จะยกระดับทีมงานของคุณสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Inventory Management แล้วหรือยัง?

ติดต่อเราเพื่อปรึกษาหรือขอรายละเอียดหลักสูตร In-House Training ที่ปรับเนื้อหาตามบริบทธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

โทร: 081-8476479 | LINE ID: naitakeab | Email: rightway.mgt@gmail.com
เรียนรู้เพิ่มเติม: https://rightwayhub.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผ่ากลยุทธ์ 4 แกน : ยกเครื่อง "สินค้าคงคลัง" สู่ความเป็นเลิศ (ลดต้นทุน เพิ่มกำไรอย่างยั่งยืน)

มาช่วยกันพลิก Inventory จาก "ปัญหา" สู่ "ขุมพลัง" 💡 ในฐานะผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการซัพพลายเชน เราทราบดีว่า สินค้าคงคล...