บทเรียนจากกิจกรรมวันหยุด : Asset Management Efficiency" เกิดได้ทุกที่
ในฐานะที่ปรึกษาที่คลุกคลีกับการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ผมมักจะมองหาหลักการบริหารจัดการซ่อนอยู่ในกิจวัตรประจำวัน เมื่อวานนี้ ผมได้มีโอกาสใช้เวลาในการจัดการสวนของตัวเอง ในระหว่างวันหยุด ซึ่งประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลักที่สะท้อนการบริหารจัดการองค์กรที่ยั่งยืน:
Big Cleaning: การจัดการกับพื้นที่รกและสิ่งที่ผิดปกติ (Abnormal) เพื่อสร้าง ประสิทธิภาพ (Efficiency)
Asset Investment & Replacement: การปลูกต้นไม้ใหม่ 20 ต้น เพื่อขยายกำลังการผลิตด้าน ความยั่งยืน (Sustainability)
ผมเห็นภาพชัดเจนว่า "ต้นไม้" ไม่ต่างอะไรกับ "เครื่องจักรที่มีชีวิต" ที่มีหน้าที่ผลิต "คุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม" ที่สำคัญต่ออนาคตของโลกธุรกิจ: การดูดซับคาร์บอนและผลิตออกซิเจน บทความนี้จะถอดรหัสกิจกรรมในสวน เพื่อแสดงให้เห็นถึงปรัชญา Plants & Plant ว่าโรงงานของคุณจะผสานสองเสาหลักนี้เข้าด้วยกันได้อย่างไร"
Part 1: การจัดการ "ความรก" ในสวน – เสาหลักด้านประสิทธิภาพ (Efficiency)
การจัดการกับพื้นที่ที่ถูกปล่อยปละละเลยจนหญ้ารก ถือเป็นการจัดการกับ ความผิดปกติ (Abnormal Condition) และ ความสูญเปล่า (Waste) ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเพิ่มประสิทธิภาพตามหลัก Lean
1.1 การกำจัดความสูญเปล่าด้วยหลัก 5ส: หัวใจของการผลิตแบบลีน (Lean)
ความสูญเปล่าที่ซ่อนอยู่ (Hidden Waste): หญ้ารก กิ่งไม้แห้ง คือ ความสูญเปล่าด้านพื้นที่ และ ความเสี่ยง ที่หากปล่อยไว้จะบดบังปัญหาที่ใหญ่กว่า เช่น ท่อระบายน้ำที่อุดตัน
5ส คือการสร้างมาตรฐาน: การทำ Big Cleaning จึงเป็นการประยุกต์ใช้หลัก 5ส (สะสาง, สะดวก, สะอาด) เพื่อสร้าง สภาพแวดล้อมมาตรฐาน (Standard Condition) ที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการทำงาน
ในโรงงาน: เราเน้นย้ำเสมอว่า 5ส คือ เครื่องมือ ในการค้นหาและกำจัดความสูญเปล่าตามหลัก Lean Management ช่วยลดเวลาในการค้นหา (Waiting Waste) ลดความผิดพลาดในการทำงาน และลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอย่างมีระบบ
1.2 การบริหาร Asset Integrity และการคืนสภาพ
การสูญเสียกำลังการผลิต: ต้นไม้ที่ตายไป คือ Asset Failure หรือ เครื่องจักรที่หยุดทำงาน การคืนสภาพพื้นที่และปลูกใหม่จึงเป็น การซ่อมบำรุงเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance) ที่สำคัญ
การคืนสภาพ (Abnormal Correction): คือกระบวนการที่ไม่ได้แค่ "ซ่อม" แต่ต้องนำสินทรัพย์กลับมาสู่สภาพที่ดีที่สุดหรือดีกว่าเดิม ซึ่งคือหัวใจของ Reliability Engineering ที่มุ่งรักษาความสมบูรณ์ของสินทรัพย์ (Asset Integrity)
ข้อคิดสำคัญ: โรงงานที่มีประสิทธิภาพสูงจะต้องมีวินัยในการจัดการกับ "ความผิดปกติ" เล็กๆ น้อยๆ อย่างทันท่วงที เพื่อไม่ให้ลุกลามจนส่งผลกระทบต่อสายการผลิตและความปลอดภัย
Part 2: ปลูก 20 ต้น – เสาหลักด้านความยั่งยืน (Sustainability) และ ESG
การแบ่งเวลาส่วนหนึ่ง เพื่อการตัดสินใจปลูกต้นไม้ใหม่ 20 ต้น บนพื้นบานของความสามารถและทรัพยากรที่มีในวันนั้น ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สร้างผลตอบแทนด้านสิ่งแวดล้อมที่วัดผลได้ ซึ่งเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG
2.1 ต้นไม้: สินทรัพย์สีเขียวที่สร้าง Carbon Offset
การขยายกำลังการผลิต: ต้นไม้แต่ละต้นคือเครื่องจักรที่เพิ่ม "กำลังการผลิตด้านสิ่งแวดล้อม"
การคำนวณมูลค่า: ถ้าต้นไม้ 1 ต้นดูดซับ CO2 ได้เฉลี่ย กิโลกรัม/ปี การปลูก ต้น ทำให้เราสามารถชดเชยคาร์บอนได้รวม กิโลกรัมต่อปี นี่คือมูลค่าด้าน CO2 ที่ชัดเจน
การบริหาร Carbon Offset: การลงทุนใน Asset สีเขียว เช่น ต้นไม้ การติดตั้ง Solar Rooftop หรือการเปลี่ยนไปใช้เครื่องจักรประหยัดพลังงานในโรงงาน คือการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันภายใต้เป้าหมาย Net Zero Emission ของโลก
2.2 การเปลี่ยนกิจกรรม ESG ให้เป็น KPIs ที่วัดผลได้จริง
ยกระดับจากการทำดีสู่การรายงาน: โรงงานยุคใหม่ไม่สามารถทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยปราศจากการวัดผลได้อีกต่อไป การคำนวณปริมาณคาร์บอนที่ดูดซับได้นี้ ช่วยเปลี่ยนกิจกรรมเชิงบวกให้กลายเป็น ตัวชี้วัดผลงานหลัก (KPIs)
Asset Lifecycle Management for ESG: เช่นเดียวกับการดูแลเครื่องจักร การปลูกต้นไม้ก็ต้องมีการบำรุงรักษาและติดตามการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสินทรัพย์สีเขียวนี้สามารถสร้างมูลค่าและตอบโจทย์การรายงานผลด้าน Sustainability Reporting ได้อย่างโปร่งใส
ผสานสองเสาหลักเพื่อการเติบโตที่มั่นคง
ประสบการณ์ที่สวนยืนยันปรัชญาการบริหารองค์กรที่ผมเชื่อมั่น: ประสิทธิภาพและความยั่งยืน ต้องเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน องค์กรที่เข้าใจปรัชญา 'Plants & Plant' อย่างชาญฉลาด—ย่อมสามารถสร้างผลกำไรในปัจจุบัน พร้อมสร้างความมั่นคงและภาพลักษณ์ที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต"
การจัดการสวนของเราสอนว่า:
ต้องมีวินัย: ในการจัดการความผิดปกติ (5ส และ PM เชิงรุก) เพื่อรักษา ประสิทธิภาพ การดำเนินงาน
ต้องลงทุนอย่างชาญฉลาด: ในสินทรัพย์ที่สร้างผลกระทบเชิงบวก (Asset สีเขียว) เพื่อสร้าง ความยั่งยืน ให้กับองค์กรในระยะยาว
องค์กรที่สามารถมอง "ต้นไม้" และ "เครื่องจักร" เป็นสินทรัพย์ที่ต้องบริหารจัดการด้วยความมุ่งมั่นเท่าเทียมกัน จะเป็นองค์กรที่สามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจและเติบโตได้อย่างมั่นคงภายใต้แรงกดดันด้าน ESG ในตลาดโลกยุคปัจจุบัน
หากคุณสนใจที่จะ:
เปลี่ยนกิจกรรม 5ส ให้เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการค้นหาและกำจัดความสูญเปล่า
วางแผนการบริหารสินทรัพย์ (Asset Management) ที่ผสานเป้าหมายด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม
กำหนด KPIs ด้านความยั่งยืนที่วัดผลได้จริง
การบริหารจัดการเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เพื่อรับการฝึกอบรมและคำปรึกษาที่เจาะลึกด้าน Lean, Asset Management, และ Sustainability Strategy
สามารถติดต่อเราเพื่อปรึกษาหรือขอรายละเอียดหลักสูตร In-House Training ที่ปรับเนื้อหาตามบริบทธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ
สนใจยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพติดต่อเราได้ที่ https://rightwayhub.com
สนใจการฝึกอบรมแบบ In-house Training แจ้งความต้องการได้ที่ https://rightwayhub.com/training
มงคล พัชรดำรงกุล
โทร: 081-8476479 | LINE ID: naitakeab | Email: rightway.mgt@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น