ความเชื่อมโยงของ Supply Chain - Demand Chain -Value Chain และ Global Value Chain |
ใช่แล้วครับ โลกปัจจุบันกำลังเข้าสู่โซ่คุณค่าของโลก (Global Value Chain) อย่างสมบูรณ์ และกลุ่มธุรกิจของไทยที่เข้าไปเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับโซ่คุณค่าของโลกนี้ และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ กลุ่มอุตสาหกรรม SMEs ซึ่งจากข้อมูลผลการสำรวจสำมะโนธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรม ปี 2560 แสดงให้เห็นว่าจำนวนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ไทย เพิ่มขึ้นเป็น 3,004,679 ราย มีการจ้างงานทั้งสิ้น 11,747,093 ราย โจทย์สำคัญที่เราต้องคิดและกำหนดขึ้นก็คือ “เราต้องทำอย่างไรให้การเชื่อมโยงของ SMEs ไทยในโซ่คุณค่าโลกเส้นนี้มีความแข็งแรง ยั่งยืน และสร้างคุณค่าให้กับประเทศไทยสูงสุด?”
เมื่อกล่าวถึงคำว่า “การบริหาร Chain หรือโซ่” ในโลกของการบริหารจัดการเราควรเข้าใจในเชิงบริบทและความสัมพันธ์ของคำว่า Chain 4 คำที่เป็นคำที่คุ้นหูกันอยู่ในแวดวงการจัดการ นั้นก็คือ
1. Demand Chain หัวใจคือ บริหารสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้เกิดขึ้น
2. Supply Chain หัวใจคือ บริหารทรัพยากรเพื่อตอบความความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
3. Value Chain หัวใจคือ การค้นหา พัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการเพื่อตอบสนองคุณค่าที่ลูกค้าอยากได้
4. Global Value Chain หัวใจคือ แหล่งใดในโลกนี้ที่ควรทำหน้าที่สร้างแต่ละคุณค่าที่ลูกค้าอยากได้
โดยเรื่องของ Value Chain และ Supply Chain เป็นเรื่องที่กล่าวถึงกันมาก และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นในปัจจุบัน โดยหากกล่าวถึง Value Chain หลายคนก็จะนึกถึงภาพของ Porter’s Value Chain หรือถ้ากล่าวถึง Supply Chain ก็จะนึกถึง SCOR Model สำหรับผมแล้วพยายามบูรณาการทั้ง 2 องค์ประกอบเข้าด้วยกัน และเชื่อมโยงให้เห็นไปถึงภาพโซ่คุณค่าของโลก (Global Value Chain) ซึ่งจะใช้ปัจจัยต่างๆ ในการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่หรือ location ใดๆ ในโลกนี้ที่สามารถสร้าง Value ให้กับ Product หรือ Service ที่เหมาะสมที่สุด ที่ใดที่เหมาะสม ที่นั้นก็จะถูกเลือกเป็นพื้นที่สร้างคุณค่า (Value) และถ้าคุณค่านั้นๆ ถูกกำหนดและสร้างขึ้นจากประเทศไทย ก็น่าจะเป็นการดีอย่างยิ่ง ส่วนปัจจัยใดๆ บ้างที่นำมาพิจารณาดูได้จากภาพนะครับ
จากภาพจะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโช่คุณค่าของโลกจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการจัดการโซ่อุปทาน (Supply Chain) ซึ่งเน้นการบริหารวัตถุดิบหรือทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการจัดการโช่ความต้องการ (Demand Chain) ก็เป็นอีกประเด็นสำคัญที่กิจการต้องดำเนินการควบคุมกันไป โดยมุ่งเน้นการดำเนินการที่ตอบสนองต่อความต้องการลูกค้า และทั้ง 2 องค์ประกอบนี้จะอยู่ภายใต้ภารกิจเดียวกันคือสร้างคุณค่าที่ลูกค้าต้องการ (Value Chain)
ส่วนในวงนอกจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการสร้างคุณค่าเพิ่มโดยมีปัจจัยในการพิจารณาทั้งหมด 7 ปัจจัย คือ
- เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คือ ความพร้อมของระบบเทคโนโลยีและการสื่อสารในพื้นที่นั้นๆ ว่ามีประสิทธิภาพตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจอย่างไร
- การศึกษา การทดสอบและการฝึกอบรม คือ ระดับความรู้ความสามารถของบุคลากรในพื้นที่ ความพร้อมของหน่วยทดสอบผลิตภัณฑ์หรือการปฏิบัติการต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจ ระบบในการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร ฝีมือแรงงาน
- NGO และระบบมาตรฐานต่างๆ คือ บทบาทขององค์กรภาคเอกชนที่ทำหน้าที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองมีส่งเสริมหรือไม่อย่างไร รวมทั้งการให้ความสำคัญต่อมาตรฐานต่างๆ ที่จำเป็น เช่น มาตรฐานแรงงาน มาตรฐานคุณคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย ฯลฯ
- การค้าและสมาคมวิชาชีพ คือ บทบาทสมาคมการค้า หรือสมาคมวิชาชีพต่างๆ ช่วยสนับสนุนส่งเสริมมากน้อย
- โครงสร้างพื้นฐานและการเงิน คือ สภาพโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคงของระบบการเงิน ค่าจ้าง ภาษี ฯลฯ ของพื้นที่นั้นๆ
- สภาพแวดล้อมที่จำเป็น คือ สภาพแวดล้อมของระบบการดำเนินงานต่างๆ ในพื้นที่นั้นมีส่วนส่งเสริมต่อการดำเนินธุรกิจอย่างไร
- การอำนวยความสะดวกของรัฐ คือ การอำนวยความสะดวก การส่งเสริมของรัฐ กฎระเบียบ เงื่อนไขการปฏิบัติต่างๆ ที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ
การที่ SMEs จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน สิ่งสำคัญที่จะต้องนำมาใช้ในการขับเคลื่อนนั้นก็คือ การสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้น (Value Creation) โดยหลักการของการสร้าง Value ภายใต้ 1 ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นได้มีผู้เชี่ยวชาญได้จำลองภาพการสร้างคุณค่า (Value Creation) เป็นภาพรอยยิ้ม (Smile Curve) ซึ่งแต่ละจุดภายใต้ Smile Curve มีคุณค่าที่เกิดขึ้นไม่เท่ากัน
Value Add จากกิจกรรมต่างๆตลอดกระบวนการทางธุรกิจ |
สิ่งหนึ่งที่เป็นไปได้ หากพบว่าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งใน Value Creation ที่เจ้าของ Product กำหนดไว้ ทางเลือกที่เราควรทำ คือการพัฒนากระบวนการทำงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นนวัตกรรมการดำเนินงาน (Process Innovation) และพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรม (Product/Service Innovation) ที่มีคุณค่า (Value Creation) และสามารถส่งต่อหรือขยายผลในเชิงพาณิชย์ได้อย่างมั่นใจกลายเป็นนวัตกรรมรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ (Business Model Innovation) ได้ในท้ายที่สุด
ที่สำคัญหากกระบวนการในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น กิจการได้มุ่งใช้ Resource อันประกอบไปด้วย Man, Machine, Materials ที่ผลิตและสร้างได้ในประเทศของเรา เมื่อนั้นก็จะกลายเป็นประโยชน์สำหรับประเทศมากยิ่งขึ้น และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังและเตบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ลองไปทบทวนและประยุกต์ปรับใช้กันดูนะครับ
มงคล พัชรดำรงกุล
วิทยากร/ที่ปรึกษา/ผู้เชี่ยวชาญการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
LineID : naitakeab, Tel 081-8476479
31 มีนาคม 2561
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น